คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฝ่ายทรัพยากรบุคคลสำหรับผู้สมัครงาน
ปรับปรุงล่าสุด เดือนมกราคม 2567
เพื่อให้ บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัด (“บริษัท”) สามารถพิจารณาข้อมูลใบสมัครงานของท่านได้ กรุณาศึกษา นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้อย่างละเอียดก่อนที่ท่านจะให้ข้อมูลการสมัครแก่บริษัท บริษัทยึดมั่นการดำเนิน ธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญด้านการเคารพ สิทธิในความเป็นส่วนตัวของท่านและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้กำหนด นโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการดำเนินงานของบริษัทด้วยมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความ ปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านได้มั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับจะถูกนำไปใช้ตรง ตามความต้องการของท่านและถูกต้องตามกฎหมาย
1. นโยบายฉบับนี้มีขึ้นเพื่ออะไร
นโยบายฉบับนี้ใช้เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์และ รายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่ เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
ในระหว่างกระบวนการสรรหาบุคลากร บริษัทอาจรวบรวมหรือรับข้อมูลประเภทต่อไปนี้ ซึ่งอาจ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านในระหว่างการสรรหาและขั้นตอนการสัมภาษณ์งาน ซึ่งบริษัทอาจได้รับข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านผู้สมัครงานจากท่าน โดยตรงตามข้อมูลในใบสมัครงาน (แบบฟอร์มใบรับสมัครงาน หรือ ใบ สมัครออนไลน์) ประวัติย่อ (Resume) การสนทนาหรือการสัมภาษณ์ และ / หรือผ่านช่องทางอื่น ๆ (เช่น บอร์ด สมัครงาน เว็บไซต์ของบริษัท ผ่านบริษัทรับจัดหางาน สื่อโซเชียล งานนัดพบแรงงาน งานอีเว้นเครือข่าย เป็นต้น)
1) รายละเอียดส่วนบุคคล: เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อเต็ม สถานภาพทางการสมรส วันที่ อายุ เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก การรับราชการทหาร ภาพถ่าย สัญชาติ ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรที่ออกให้โดยทางราชการ (เช่น บัตร ประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน ใบขับขี่และใบอนุญาตอื่นๆ และ / หรือใบอนุญาต เช่น ใบอนุญาตผู้สอบบัญชี ใบอนุญาตเชฟ และใบอนุญาตทนายความ เป็นต้น) สมุดทะเบียนรถยนต์ บัญชีสื่อสังคม ลายเซ็น CV ประวัติ ใบสมัคร บัญชีธนาคาร และสิ่งตัวระบุตัวตนอื่นๆ
2) ข้อมูลการติดต่อ: เช่น หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรศัพท์บ้าน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่อีเมล์ ข้อมูลในทะเบียนบ้าน ข้อมูลผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉินและข้อมูลอื่นๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน
3) ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน: เช่น ประสบการณ์การทำงานและการจ้างงานก่อนหน้า (ซึ่งรวมถึง ตำแหน่ง แผนกและประวัติตำแหน่งและเงินเดือนและผลประโยชน์จากการจ้างงานก่อนหน้า) พฤติกรรมการ ทำงาน ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ใบรับรองและคุณสมบัติต่างๆ
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" หมายถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่จำแนกตามกฎหมายว่าเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและโอนไปต่างประเทศหากบริษัทได้รับความยินยอม อย่างชัดเจนจากท่านหรือตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้
บริษัทยังอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ / หรือ ถ่ายโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับท่านดังต่อไปนี้:
1) ข้อมูลสุขภาพและข้อมูลทางการแพทย์
2) ประวัติอาชญากรรม
3) ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในเอกสารแสดงตัวตนที่ออกให้โดยหน่วยงานราชการ เช่น ศาสนา
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวของท่าน ญาติใกล้ชิด ผู้อ้างอิง และ / หรือผู้มี ความสัมพันธ์อื่นๆ วัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งสิทธิ ของเขาที่มีตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ที่ปรับใช้กับเขา ท่านต้องรับผิดชอบในการขอความยินยอมที่จำเป็น จากบุคคลเหล่านั้นและทำให้มั่นใจว่าท่านมีสิทธิที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นกับบริษัท
3. เหตุจึงเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.1. วัตถุประสงค์ที่ท่านให้ความยินยอม
- ข้อมูลสุขภาพและการแพทย์: เช่น สภาวะสุขภาพเรื้อรังหรือประวัติทางการแพทย์และข้อมูล ที่มีอยู่ในใบรับรองแพทย์ / ใบรับรองแพทย์เพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินความเหมาะสมของผู้สมัคร - ข้อมูลเกี่ยวกับความพิการเพื่อวัตถุประสงค์ในการสรรหาบุคลากร
- ประวัติอาชญากรรม: บริษัทดำเนินการจัดทำหรือขอรับประวัติอาชญากรรม และ / หรือการ ตรวจสอบประวัติที่เกี่ยวข้องกับท่านตามสมควรกับหน้าที่รับผิดชอบของท่านเพื่อประโยชน์ในการและการสรรหา บุคลากร
- ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในเอกสารแสดงตัวตนที่ทางราชการออกให้: เพื่อประโยชน์ในการ ตรวจสอบและรับรองความถูกต้องและการจัดสรรสวัสดิการ (เช่น การเตรียมอาหาร การจัดให้มีวันหยุดทางศาสนา การวางแผนการใช้กำลังคน และการจัดการหาสถานที่รองรับในที่ทำงาน)
3.2. วัตถุประสงค์และเหตุทางกฎหมายอื่นๆ สำหรับบริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน
บริษัทยังอาจอาศัยอ้างอิง:
(1) หลักสัญญาเป็นการกระทำเพื่อการเริ่มต้นหรือปฏิบัติตามข้อตกลงการจ้างแรงงานระหว่างบริษัท กับท่านหากท่านเป็นพนักงาน หรือสัญญาจ้างทำของหากท่านเป็นคนทำงาน
(2) หน้าที่ความรับผิดทางกฎหมาย เป็นการกระทำเพื่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ความรับผิดตาม กฎหมายของบริษัท
(3) ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์โดยชอบของบริษัทและประโยชน์ โดยชอบของบุคคลภายนอก
(4) ผลประโยชน์ที่สำคัญ เป็นการกระทำเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ ของบุคคล และ / หรือ
(5) ประโยชน์สาธารณะ เป็นการกระทำเพื่อการปฏิบัติงานที่ทำเพื่อสาธารณประโยชน์หรือเพื่อการ ปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
บริษัทอาจรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึง แต่ไม่จำกัด เพียงเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
เอกสารข้อมูลที่รวบรวมจากผู้สมัครงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการสมัครงาน การรับรองและการตรวจสอบ ความถูกต้อง เพื่อการติดต่อ การประเมินความเหมาะสมของผู้สมัคร การตัดสินใจจ้าง การกำหนดเงินเดือนและ ข้อมูลเบื้องต้นอื่นๆ สำหรับทำสัญญาการจ้างงานใหม่ ขั้นตอนการปฐมนิเทศประเมินผู้สมัคร / ผู้สมัครที่ได้รับการ คัดเลือกสำหรับคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งงาน การตรวจสอบประวัติ (ถ้าท่านได้รับการเสนอตำแหน่งกับบริษัท) และชื่อผู้ติดต่อที่ท่านกำหนดในกรณีฉุกเฉิน
4. บุคคลใดที่บริษัทอาจะเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกซึ่งเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ของนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บุคคลภายนอกเหล่านี้อาจอยู่ในประเทศไทย โดยท่านสามารถเข้าไปดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
วิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ซึ่งท่านเองก็จะได้รับการ ปฏิบัติภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
4.1. กลุ่มบริษัทในเครือ
ในฐานะบริษัทในเครือ ซึ่งมีการร่วมมือและแบ่งปันบุคลากร การให้บริการ และระบบต่างๆ (รวมถึง บริการและระบบที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์) และเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการรายงานตามปกติ บริษัทอาจต้องถ่าย โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง หรืออนุญาตการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดย บริษัทอื่นๆ ภายในเครือ เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
4.2. ผู้ให้บริการและคู่ค้าของบริษัท
บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ คู่ค้าและผู้ให้บริการ ดังต่อไปนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
(1) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ และผู้ให้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (2) ตัวแทนจัดหางานและผู้ให้บริการงานด้านบุคคล
4.3. บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายกำหนด
ในบางกรณี บริษัทอาจจะจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตาม กฎหมาย หรือกฎข้อบังคับ ซึ่งรวมถึง การปฏิบัติตามคำสั่งหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล เจ้าพนักงาน หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลภายนอกอื่นๆ ในกรณีที่บริษัทเชื่อว่าจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายหรือ กฎข้อบังคับทางกฎหมาย หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยส่วน บุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย (เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงแรงงาน)
5. บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานเท่าใด
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่บริษัท ได้รับมาและเพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บไว้ ในช่วงเวลาของการจ้างงานหรือความสัมพันธ์ในการให้บริการของท่านรวมถึงหลังจากนั้นตราบใดที่ยังมีภาระ ผูกพันตามกฎหมายหรือการเรียกร้องที่อาจเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ในการจ้างงาน
หากผู้สมัครงานไม่ประสบความสําเร็จในการประเมินสําหรับตําแหน่งงานที่ไดสมัครไว้บริษัทจะเก็บ รายละเอียดของผู้สมัครงานในฐานข้อมูลของบริษัทเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อที่บริษัทจะสามารถติดต่อในกรณีที่มี ตําแหน่งงานใด ๆ ในอนาคตที่อาจจะเหมาะสม
6. บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตราการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทาง กายภาพ (physical safeguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มี
การปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม
นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้อง รักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น
7. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง
สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจน หลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น และในกรณีท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการ ทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำ การแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์
7.1 สิทธิขอถอนความยินยอม : หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วน บุคคล ของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ต่างๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและ
สอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
7.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของ บริษัทและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านมาได้อย่างไร
7.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูล ส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และ สามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วน บุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทใน การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับ บริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท หรือเป็น ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
7.4 สิทธิขอคัดค้าน : ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการ ดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกิน ขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หาก ท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป เฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไป เพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละ กรณี
นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย
7.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำ ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้าน ตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
7.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่ บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใด ที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอใ ห้ บริษัทระงับการใช้แทน
7.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
7.8 สิทธิร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
7.9 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มี เหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตาม กฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธ คำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย
8. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้มีการดำเนินการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดย แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของ บริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำ ระเบียบ คำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามแนวนโยบายเกี่ยวกับการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปด้วยความถูกต้องเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ
9. ท่านติดต่อบริษัทได้อย่างไร
“บริษัท” ถือว่าเป็นผู้ควบคุมข้อมูลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากท่าน มีคำถามใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามที่อยู่ดังต่อไปนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัด
1/74-75 หมู่ 2 ถนนพระราม 2 ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร 74000 โทรศัพท์: 034-490009
อีเมล: [email protected]